วันพฤหัสบดีที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2556

กลอน รักแม่

ลูกเอยแม่เคยเลี้ยง.........เจ้ามา
ยามเมื่อแก่ชรา..............หวังพึ่ง
เจ็บป่วยช่วยรักษา..........แม่บ้าง ลูกเอย
ใยปล่อยแม่ผู้ซึ่ง............รักเจ้า เปล่าดาย...


ลูกเอยแม่เคยเลี้ยง.........เจ้ามา
ยามเมื่อแก่ชรา..............หวังพึ่ง
เจ็บป่วยช่วยรักษา..........แม่บ้าง ลูกเอย
ใยปล่อยแม่ผู้ซึ่ง............รักเจ้า เปล่าดาย...

กลอน รัก

ผิดสัญญา แต่ก็ยัง “ให้โอกาส” .. ผิดพลาด! แต่ก็ยัง “ไม่ถือสา” …
นอกใจกัน แต่ก็ยัง “ไม่เลิกรา” … ทำให้มีน้ำตา แต่ก็ยัง “เชื่อใจ” …
รู้ว่าหลอก แต่ก็ยัง “ทุ่มเท” … ทำตัวเกเร แต่ก็ยัง “พอทนไหว” …
หยาบคาย แต่ก็ “ไม่ตัดใจ” … ทำตัวจัญไร แต่ก็ยังจะ “อดทน” …
เจ็บซ้ำๆ แต่ก็ยังจะ “รักอยู่” … เห็นกับตา แต่ก็ยัง “ฟังเหตุผล” …
ทรมาน แต่ก็ยัง “อยากทน” … ไม่มีตัวตน แต่ก็ยัง “รักมากมาย” …

กลอน รักแม่

บทเสภา คุณแม่
อุ่นใดก็ไม่อุ่นเท่าคุณแม่........รักใครที่ว่าแน่ยังแปลผัน
ให้ลูกเรียนแม่อุตสาฝ่าฝัน.......ให้ลูกนั้นได้ศึกษาปัญญามี
แม่ยอมอดแต่ให้ลูกอดไม่ได้...หามาให้เพื่อให้ลูกนั้นสุขขี
แม่หามาเพื่อลูกจะได้มี..........ชนนีสุดรักลูกจึงผูกใจ
เป็นเช่นว่าหาเช้าแล้วกินค้ำ......แม้ตกต่ำลูกไม่อดก็สดใส
ได้เงินมาลูกขอก็ให้ไป...........ไม่สนใจว่าแม่กว่าจะได้มา
ไหนจะค่าศึกษาปัญญาบุตร......ไหนค่าชุดนักเรียนเพียรศึกษา
ไหนกินนอนแม่ก็ต้องหามา......ให้ลูกญาสุขกายสบายใจ
แม่สุขใจถ้าลูกมีอนาคต..........ผลยอมอดเพื่อลูกนั้นสุขใส
แม่ก็สุขเมื่อเห็นลูกนั้นสุขใจ......เทพองค์ใดก็ไม่เท่าแม่เราเอง

กลอน บางวัน

แต่ละวันเราก้าวไปบนเส้นทาง ที่เราเลือกที่จะเดินและเลือกที่จะเป็น
โดยที่ไม่มีใครรู้ว่า ทางข้างหน้าจะเป็นยังไง คนไม่มีใครอยากให้มันผิดพลาด
อยากให้หนทางของเรานั้น สวยงามไปในแบบที่เราคิด
บางวัน....เราก้าวเดินอย่างรวดเร็ว
บางวัน....ใจดวงเดิมของเรามันกลับฝ่อ
บางวัน....เราอยากจะเดินให้ช้าลงซักนิด
จนบางทีก็มารู้ตัวว่า .... เราอาจจะไปผิดทางด้วยซ้ำ
หรือสงสัยว่า ตัวเองกำลังหลงทางอยู่หรือเปล่า
แต่นั่นไม่ได้ห...มายความว่า
เราจะไม่ได้เจอกับทางออก
เพราะอย่างน้อย ... เราก็ได้ลองไปในที่ที่ไม่เคยไป
หรือเราอาจจะกำลังไป ...ในที่ที่ไกลกว่าเดิมก็ได้
หากชีวิตคือการเดินทางจริงๆ
เมื่อมีเริ่มต้น .. ก็ต้องมีจุดหมายปลายทาง
และทางออกให้กับทุกเส้นทางเสมอ
ให้เวลากันหนทาง.... แล้วมันจะพาเราไปเจอกับเรื่องใหม่ๆ
และแม้บางครั้ง
หนทางจะพาเราย้อนกลับมา ..เจอเรื่องเดิมๆ อย่างหนีไม่พ้น
เราอาจจะร้องหัวเราะ....และร้องไห้ไปอีกซักกี่ครั้ง
เพราะทุกขณะที่ผ่านไป ...เรากำลังได้บทเรียนเพิ่มขึ้นมา
และจงทำความรู้จัก...กับความรู้สึกตัวเองให้มากขึ้น
ให้ตัวเองได้ลองทำ...แล้วทุกอย่างก็จะผ่านไปด้วยดี

กลอน

"ไม่ใช่" ก็ "ไม่ต้องฝืน"
"มีคนอื่น" ก็ "ไม่ต้องสน"
"ลำบากใจ" ก็ "ไม่ต้องทน"
"อยู่อย่างทุกข์ทน" ก็ "ยอมตัดใจ"
"เสียใจมาก" ก็ "ร้องให้ออกมา"
"ค้างคา" ก็ "กลับไปแก้ไข"
"มีทางที่ดีกว่า" ก็ "เลือกเดีนไป"
"คนที่มันหมดใจ" ก็ "อย่าไปรอ"

วันพฤหัสบดีที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2556

กลอนไทย ไทย

บางคร้ัง "เข้มแข็ง"
ไม่ได้แปลว่า "รับได้ทุกอย่าง"
บางครั้ง "ถอยห่าง"
ไม่ได้แปลว่า "ไม่อยากอยู่ใกล้"
บางครั้ง..... "เฉยชา"
ไม่ได้แปลว่า "ไม่มีหัวใจ"
บางครั้ง......"ยิ้มให้ใครต่อใคร"
ไม่ได้แปลว่า "ข้างในจะหายดี"

กลอนไทย ไทย

กลอนไทย ไทย

อย่ายอมแพ้..แม้ตัวเอง..ต้องสิ้นหวัง 
เติมพลัง..แล้วฝ่าฟัน..สู่เป้าหมาย 
อดทนไว้..แม้ไม่ได้..เร็วดั่งใจ 
ดีกว่ามานั่ง..เสียดาย... ว่าทำไมถึงไม่ทำ

กลอนไทย ไทย

ผิดด้วยหรือที่อยากจะมีความรัก
ผิดด้วยหรือที่อยากจะมีใครสักคน
ผิดด้วยหรือที่อยากมีความฝัน ฝันถึงวันแสนดี
ตลอดเวลาที่ผ่านมา ก็รู้ตัวว่าไม่เคยเป็นที่ต้องการของใคร
ไม่เคยมีใครให้ความสำคัญ ไม่เคยมีใครมองที่ตรงหัวใจ
คนก็มีหัวใจผมก็รักใครเป็น

กลอนไทย ไทย

หนึ่งชีวิตในหนึ่งก้าวเดิน
หนึ่งหัวใจในหนึ่งความฝัน
หนึ่งจิตนาการในหนึ่งความผูกพัน
อีกหนึ่งครั้งกับอีกหนึ่งทางเส้นที่ก้าวเดิน
หนึ่งในนั้นอาจมีอีกหนึ่งรอยน้ำตา
ที่นำทางให้ได้ก้าวเดินไป
อาจสุข หรือ เศร้า อาจ เหงา และท้อแท้ 
ขอแค่หนึ่งกำลังใจ ก็พอ
หนึ่งใจหนึ่ง----น้ำตาจากกาลเวล

กลอนไทย ไทย

แต่ละวันเราก้าวไปบนเส้นทาง ที่เราเลือกที่จะเดินและเลือกที่จะเป็น
โดยที่ไม่มีใครรู้ว่า ทางข้างหน้าจะเป็นยังไง คนไม่มีใครอยากให้มันผิดพลาด
อยากให้หนทางของเรานั้น สวยงามไปในแบบที่เราคิด
บางวัน....เราก้าวเดินอย่างรวดเร็ว
บางวัน....ใจดวงเดิมของเรามันกลับฝ่อ 
บางวัน....เราอยากจะเดินให้ช้าลงซักนิด
จนบางทีก็มารู้ตัวว่า .... เราอาจจะไปผิดทางด้วยซ้ำ
หรือสงสัยว่า ตัวเองกำลังหลงทางอยู่หรือเปล่า
แต่นั่นไม่ได้หมายความว่า
เราจะไม่ได้เจอกับทางออก
เพราะอย่างน้อย ... เราก็ได้ลองไปในที่ที่ไม่เคยไป
หรือเราอาจจะกำลังไป ...ในที่ที่ไกลกว่าเดิมก็ได้
หากชีวิตคือการเดินทางจริงๆ
เมื่อมีเริ่มต้น .. ก็ต้องมีจุดหมายปลายทาง
และทางออกให้กับทุกเส้นทางเสมอ
ให้เวลากันหนทาง.... แล้วมันจะพาเราไปเจอกับเรื่องใหม่ๆ
และแม้บางครั้ง
หนทางจะพาเราย้อนกลับมา ..เจอเรื่องเดิมๆ อย่างหนีไม่พ้น
เราอาจจะร้องหัวเราะ....และร้องไห้ไปอีกซักกี่ครั้ง
เพราะทุกขณะที่ผ่านไป ...เรากำลังได้บทเรียนเพิ่มขึ้นมา
และจงทำความรู้จัก...กับความรู้สึกตัวเองให้มากขึ้น
ให้ตัวเองได้ลองทำ...แล้วทุกอย่างก็จะผ่านไปด้วยดี

กลอนไทย ไทย

"ไม่ใช่" ก็ "ไม่ต้องฝืน"
"มีคนอื่น" ก็ "ไม่ต้องสน"
"ลำบากใจ" ก็ "ไม่ต้องทน"
"อยู่อย่างทุกข์ทน" ก็ "ยอมตัดใจ"
"เสียใจมาก" ก็ "ร้องให้ออกมา"
"ค้างคา" ก็ "กลับไปแก้ไข"
"มีทางที่ดีกว่า" ก็ "เลือกเดีนไป"
"คนที่มันหมดใจ" ก็ "อย่าไปรอ"

คุณค่าภาษาไทย



คุณค่าภาษาไทย

เป็นคนไทยต้องรักภาษาไทย
รักษาไว้ให้อยู่ได้เนานานหนอ
อย่าทำร้ายลายลักษณ์ที่ถักทอ
ที่แม่พ่ออนุรักษ์ตระหนักคุณ

ภาษาไทยนั้นเป็นภาษาชาติ
อย่าประมาทใช้ผิดให้เคืองขุ่น
ครูท่านสอนสั่งไว้เลยนะคุณ
ความว้าวุ่นแห่งภาษาจะมากมี

ถ้าเมื่อใดไร้ภาษาที่มีอยู่
คงอดสูอายเขาไปทุกที่
และอาจสิ้นชาติไทยไปด้วยซี
เพราะวิถีชีวีที่เปลี่ยนไป

ภาษาไทยเป็นภาษาที่มีค่า
มากยิ่งกว่านพรัตน์เป็นไหน ไหน
มวลหมู่แก้วถึงมีค่ากว่าสิ่งใด
คงมีได้แค่เพียงค่าราคาเงิน

แต่คุณค่าของภาษามีสูงส่ง
ช่วยดำรงความเป็นชาติไม่ขัดเขิน
เพราะภาษาแสดงลักษณ์จำหลักเกิน
กว่าค่าเงินตรา...แต่สง่าอยู่ที่ใจ

เป็นคนไทยต้องรักภาษาไทย
รักษาให้อยู่นานนานจะได้ไหม
อย่าทำลายภาพลักษณ์ความเป็นไทย
โดยที่ไม่รู้ค่าภาษาเอย ฯ

กลอนไทย ไทย

กลอนวันภาษาไทย

กลอนไทย ไทย

กลอนวันภาษาไทย

ประเทศไทย มีภาษา ประจำชาติ
งามวิลาศ วจนะภาษา
พ่อขุนรามฯ ทรงประดิษฐ์ อักษรมา
ให้คนไทย มีภาษา ของตนเอง

เพื่อให้เป็น เอกลักษณ์ ประจำชาติ
ไม่เป็นทาส ทางภาษา ถูกข่มเหง
มีวัฒนธรรมทางภาษา ของตนเอง
ให้ลูกหลาน ได้เปล่ง ภาษาไทย

ให้ถูกต้องตาม อักขรวิธี
และตามหลัก วจีวิพากย์ไซร้
วากยสัมพันธ์ จงจำไว้
ฉันทลักษณ์ คือ หัวใจแห่งกวี

ใช้ภาษา ให้ถูกต้อง งามตามหลัก
อนุรักษ์ อย่าให้เสื่อมราศี
พูด อ่าน เขียน ภาษาไทย ให้ จงดี
จงภูมิใจที่บรรพชนได้สร้างภาษามา

สรรเสริญองค์ สมเด็จพระเทพรัตน์ฯ
พระราชอัจฉริยภาพทางภาษา
ทรงเป็นปราชญ์ วรรณศิลป์ เรืองวิชา
อนุรักษ์ ภาษาไทย ด้วย วรรณกรรม

ทรงเจริญรอยตาม องค์ราชันย์
ทรงสร้างสรรค์พระราชนิพนธ์ งามเลิศล้ำ
เปรียบเทพแห่ง อักษรศาสตร์ วรรณกรรม
ทรงอุปถัมภ์ ภาษาไทย ให้เจริญ

กลอนวันภาษาไทย

กลอนวันภาษาไทย

  ในวัยเด็กเฝ้าเพียรเขียนอ่านไทย
    ตัวอักษรจากกอไก่ถึง ฮ นั่น
    ต้องพากเพียรเรียนรู้อยู่ทุกวัน
    ด้วยว่าฉันเป็นเด็กยังเล็กอยู่

    สระ อิ อี อะ อา มาจำท่อง
    ประสมคำตามทำนองครูสอนสู่
    ตัวสะกดมากหลายได้ลองดู
    ทุกวันนี้ยังใช่อยู่เพื่อสื่อสาร

    เอกลักษณ์ไทยแท้แน่นั้นในวันนี้
    ก็อยู่ที่ภาษาไทยที่สืบสาน
    ได้เรียงร้อยเรียบเรียงคำตามตำนาน
    เป็นกลอนกานท์ กาพย์กลอน แต่ก่อนมา

    หากวันนี้ที่เห็นความเป็นชาติ
    คือการประกาศความเป้นไทยในภาษา
    ไม่ต้องพูดคละเคล้าชาติไหนในโลกา
    ภาษาไทยล้ำค่ารู้ซึ้งจึงเทิดทูน

ก.ไก่ใส่กลอน

กลอนวันภาษาไทย

กลอนวันภาษาไทย

    ก.ไก่ใส่กลอน

    ก.ไก่หมายถึงไก่ใช่เรื่องแปลก......ข.ไข่ใครทำแตกใช่เรื่องขำ
    ฃ.ขวดเลิกใช้เขาไม่ทำ................ค.ควายนำไถนาอยู่ทุกวัน
    ค.คนขึงขังยังไม่ช่วย..................ฆ.ระฆังแสนสวยด้วยสีสัน
    ง.งูใจกล้าถูกฆ่าฟัน....................จ.จานนั้นมีไว้ใส่แกงงู
    ฉ.ฉิ่งตีดังฉั่งฉิงฉับ....................ช.ช้างไม่ขยับยืนมองอยู่
    ซ.โซ่ล่ามไว้ให้คนดู....................ฌ.กระเฌอขึ้นคู่อยู่ริมทาง
    ญ.หญิงโสภาน่าถนอม................ฎ.ชฎาสวมพร้อมงามมิสร่าง
    ฏ.ปฏักปักไว้ใกล้ใกล้นาง.............ฐ.ฐานสร้างเอาไว้ใช้นั่งนอน
    ฑ.มณโฑหน้าขาวสาวชาวยักษ์.....ฒ.ผู้เฒ่าหลงรักดวงสมร
    ณ.เณรเคร่งครัดจัดจีวร...............ด.เด็กง่วงนอนร้องไห้กวน
    ต.เต่าหลังตุงแทนพุงป่อง............ถ.ถุงใส่กล่องจนพองอ้วน
    ท.ทหารถือหอกและถือทวน.........ธ.ธงล้วนนิยมสมชื่อไทย
    น.หนูมากมายได้เคยเห็น............บ.ใบไม้ยามเย็นลมพัดไหว
    ป.ปลาว่ายวนพ่นน้ำไป...............ผ.ผึ้งบินใกล้ต้องรีบแจว
    ฝ.ฝาทนทานชำนาญปิด..............พ.พานตั้งชิดอยู่เป็นแถว
    ฟ.ฟันครบคู่ดูวาวแวว................ภ.สำเภาพร้อมแล้วเริ่มเดินทาง
    ม.ม้าเอาไว้ขี่ดี่ที่หนึ่ง.................ย.ยักษ์หน้าบึ้งตึงตาขวาง
    ร.เรือพายงัดคัดท้ายพลาง...........ล.ลิงค่อนข้างจะซุกซน
    ว.แหวนแสนสวยเกินจะแจก........ศ.ศาลามีแขกพักหลบฝน
    ษ.ฤาษีรักการดัดตัวตน...............ส.เสือไม่มีขนคนไม่มอง
    ห.หีบใส่ผ้าสีขาวเด่น..................ฬ.จุฬาน่าเล่นเผ่นผยอง
    อ.อ่างล่ำลือชื่ออ่างทอง............. ฮ.นกฮูกนั้นต้องมีตาโต.

กลอนวันภาษาไทย

กลอนวันภาษาไทย

    ร่วมสรรค์จรรโลงสร้าง
    ให้ถูกอย่างที่วางสอน
    ใช้ถูกทุกแง่ตอน
    ดังวิงวอนกลอนขานไข

    มิแผลงแกล้งทำผิด
    คิดประดิษฐ์ภาษาใหม่
    อ่ะน่ะนู๋ เข้าใจ
    เหอ เหอใช้ ให้เวียนหัว

    อิ อิ เสียงหัวเราะ
    ฟังก็เพราะดีนะตัว
    นู๋ ใช้จนเมามัว
    เขียนทุกตัวกลัวผิดอ่ะ

    ภาษาที่ว่าไว้
    เขียนผิดไปอภัยนะ
    บางทีที่สระ
    เช่นไม่ใช่ มะใช่ค่ะ

กลอนวันภาษาไทย

กลอนวันภาษาไทย

รัก  อักษร สำเนียง เสียงสูงต่ำ
ชาติ  ไทยนำ ล้ำดี มีขานไข
รัก  ควบกล้ำ คำเพราะ เหมาะพูดไป
ภาษา  ภาษาไทย ใช้ถูก ปลูกนิยม

พูด  ชัดถ้อย ค่อยหัด สัมผัสจิต
อ่าน  ไม่ผิด คิดครวญ ล้วนเหมาะสม
เขียน  ให้ถูก ตามหลัก นักชื่นชม
ไทย  เกลียวกลม  เหตุภาษา ว่าหนึ่งเดียว...

ยี่สิบเก้า กรกฎา มากำหนด
ให้จำจด วันภาษา น่าส่งเสริม
ภาษาไทย ใช้สื่อ คือของเดิม
ไม่ต้องเติม มีรอง เป็นสองไป

ภาษาไทย ไพเราะ เหมาะยิ่งนัก
มีเสียงหนัก เสียงเบา เคล้าลื่นไหล
มีควบกล้ำ สำคัญ สรรค์ละไม
จำขึ้นใจ พูดคล่อง ผองไทยชน

เสียงสระ สามสิบสอง คล่องได้เปล่ง
รูปมีเอง ยี่สิบเอ็ด เด็ดป็นผล
ดังอะอา อิอี มีได้ยล
ผสมปน พยัญชนะ จะเป็นคำ

สระใอ ไม้ม้วน ล้วนยี่สิบ
ใช้ยกหยิบ ถูกที่ มิถลำ
สระไอ ไม้มลาย คลายปลายจำ
นอกม้วนย้ำ นำใช้ ไม่ผิดมี

ยังมาตรา แปดแม่ แท้กำหนด
น่าจำจด กอ กา ว่าเริ่มที่
อีกกงกน กบกด จดจำดี
กมเกยนี้ นับครบ ว่าจบกัน

มีไตรยางค์ กลางต่ำ นำสูงด้วย
จักได้ช่วย คำคล่อง ไม่ต้องผัน
คำขยาย หมายมี ชี้มากพลัน
ไขไข่นั้น ใช้ง่าย หลายต่างความ

วรรณยุกต์ ห้าเสียง เรียงต่ำสูง
เอกโทจูง สามัญ มั่นมิขาม
ตรีจัตวา พาครบ จบงามงาม
ผันได้ตาม ตำรา ศึกษาดี

การเขียนถูก ปลูกฝัง แต่ยังน้อย
เขียนบ่อยบ่อย ค่อยหัด ชัดวิถี
เริ่มจากหัว ให้เขียน เพียรทุกที
อักษรนี้ ดีงาม ตามคัดกัน

สะกดคำ นำเขียน เพียรสังเกต
ตามสาเหตุ กำหนด จดจำมั่น
วรรณยุกต์ ทุกสระ ระลึกพลัน
ไม่นานวัน จำจด ลดสงกา

ทั้งอ่านเขียน เพียรกัน วันรำลึก
ด้วยสำนึก ดังทอง ของภาษา
เอกลักษณ์ ประจักษ์เห็น เป็นหน้าตา
ล้ำคุณค่า ภาษาไทย ภูมิใจจริง...

กลอนวันภาษาไทย

กลอนวันภาษาไทย

เอกลักษณ์..ภาษาไทย..จำให้มั่น
จงช่วยกัน..รักษาไว้..ใช่นิ่งเฉย
จรรโลงรักษ์..อักษรไทย..ไม่ละเลย
จงคุ้นเคย..ทั้งสระ..-อะ-อา-อี....
ตัวสะกด..และสำเนียง..เสียงสูงต่ำ
หมั่นท่องจำ..เอาไว้..ใช้ทุกที่
ลูกหลานไทย..ต้องรู้ค่า..หาวิธี
ว่าเรามี.."ภาษาไทย"..ใช้มานาน..

กลอนครูกระดาษทราย

ครูกระดาษทราย


ภาษาชาตินั้นคือภาษาไทย
ศิวิไลซ์ในอักขระภาษาศิลป์
ก่อกำเนิดกลอนกานท์ทั่วแผ่นดิน
ไทยไม่สิ้นกวีแท้อย่างแน่นอน

เห็นกลอนกานท์วรรณกรรมที่ล้ำค่า
งามสง่าร้อยลำนำเรียงอักษร
เป็นบทกวีที่ไพเราะทุกคำกลอน
และสะท้อนความเป็นไทยตลอดมา

หนึ่งคุณครูกระดาษทรายก็หมายมุ่ง
หวังผดุงวงศ์กวีเป็นนักหนา
จึงพากเพียรเขียนแต่งตลอดมา
เพียงหวังว่าเป็นต้นกล้าแห่งวงวรรณ ฯ

กลอนวันภาษาไทย

กลอนวันภาษาไทย

เห็นศิลาจารึกมินึกเศร้า
แม้ใครเขาขัดข้องต้องถกเถียง
เจาะภาษาจากใจไม่เอนเอียง
คล้องจองเสียงเยี่ยงกังสดาลหวานจับใจ
เอกลักษณ์ของชาติคือปรารถนา
เติบโตมาตามกาลผ่านยุคสมัย
จะยุคนี้ยุคโน้นหรือยุคใด
ขอเพียงไทยมีภาษาข้า ฯ ขอบคุณ
ขอเดชะฯ บารมีที่ล้ำเลิศ
วันภาษาไทยก่อเกิด ธ เกื้อหนุน
ยี่สิบเก้ากรกฎา ธ การุญ
ภาษาไทยของพ่อขุนจึงเบ่งบาน

ภาษาไทยของฉัน

ภาษาไทยของฉัน

            หลักแท่นหินแผ่ยศิลาที่จารึก              
ลงบันทึกตรึกตราภาษาสยาม
                สดุดีก้องเกียรติพ่อขุนราม                  
ทุกเขตคามต่างร่ำลือระบือไกล
                  เป็นเพลามานานมิใช่น้อย                   
ตั้งเจ็ดร้อยยี่สิบห้าตราสมัย
                          ภาษายังคู่จิตคู่ชาติไทย                             
คู่สมัยคู่ใจไทยนิรันดร์
สิ้นภาษาดั่งสิ้นเอกราช
ดั่งสิ้นชาติสิ้นชีพสิ้นความฝัน
ดั่งประทีปดับวูบในเร็ววัน
สิ้นแสงจันทร์สิ้นดาราสิ้นราตรี
ภาษาไทยภาษาเดียวภาษาชาติ
ประวัติศาสตร์จารึกไว้เป็นสักขี
เป็นสมบัติอนุชนมานานปี
มิอาจมีสิ่งใดมาทำลาย
แต่บัดนี้วัฒนธรรมตะวันตก
เข้ามาปกความคิดปิดจิตหมาย
ทั้งภาษาการกินอยู่การแต่งกาย
เริ่มเสื่อมคลายความดีงามของผองไทย
ถึงเวลาอนุชนคนรุ่นหลัง
เริ่มปลูกฝังจิตสำนึกให้ตรึกไว้
มีกำพืดเกิดมาจากคนไทย
ภาษาใดไม่เทียมเท่าที่ไทยมี
ภาษาพูดภาษาอ่านภาษาเขียน
ตั้งแต่เศียรจรดบาทเป็นวีถี
คำพูดจาอ่อนหวานที่เรามี
ดั่งวารีไหลฉ่ำล่ำจิตใจ
ท่องกอไก่ฮอนกฮูกตั้งแต่เด็ก
เปรียบรั้วเหล็กป้องภาษาชาติเอาไว้
ร่วมร้อยเรียงร่วมรู้รักร่วมรักไทย
ใช่อะไรภาษาไทยของฉันเอง

ภาษาไทยสวยงาม

ภาษาไทยสวยงาม

ภาษาไทยงดงามด้วยน้ำเสียง
ถ้อยเรียบเรียงหวานหูไม่รู้หาย
สื่อความคิดสื่อความรู้สื่อแทนกาย
สื่อความหมายด้วยภาษาน่าชื่นชม

เกิดเป็นไทยภาษาไทยเขียนให้คล่อง
กฎเกณฑ์ต้องรู้ใช้ให้เหมาะสม
จะพูดจาน่าฟังทั้งนิยม
เจ้าคารมเขาจะหมิ่นจนสิ้นอาย

ภาษาพูดสนทนาพูดจาทัก
เป็นสื่อรักสื่อสัมพันธ์ความมั่นหมาย
แม้นพูดดีมีคนรักมักสบาย
แต่พูดร้ายส่อเสียดคนเกลียดกัน

วัฒนธรรมล้ำค่าภาษาสวย
ทุกคนช่วยออกเสียง “ร” ขอสร้างสรรค์
แม้นออกเสียง เป็น “ล” เขาล้อกัน
คนจะหยันชาติเราไม่เข้าที

สระ “เอือ" เป็น “เอีย” ฟังเพลียนัก
บอกที่รัก ช่วยซื้อ “เกีย”..ที่ร้านนี่
ขอ “ซมเซย” จะเชยแท้ แม้พาที
วอนน้องพี่ต้องช่วยกันจรรโลงไทย

ผมได้เลิกแต่งงานในวันนี้
เป็นเลิกดีเลิกงามยามสดใส
ออกเสียงฤกษ์ เป็นเลิก ครั้งคราใด
คงทำให้สื่อสารผิด..คิดเสียดาย

ภาษาไทยงดงามด้วยความคิด
แม้นอ่านผิดก็เขียนผิด..คงเสียหาย
เขียนอ่านไทยให้ถูกด้วยช่วยผ่อนคลาย
สื่อทั้งหลาย..ต้องช่วยกัน..นั้นอีกแรง..

กลอนวันภาษาไทย

หลักแท่นหิน แผ่นศิลา ที่จารึก

ลงบันทึก ตรึกตรา ภาษาสยาม
สดุดี ก้องเกียรติ พ่อขุนราม
ทุกเขตคาม ต่างร่ำลือ ระบือไกล

เป็นเพลา มานาน มิใช่น้อย
ตั้งเจ็ดร้อย ยี่สิบห้า ตราสมัย
ภาษายัง คู่จิต คู่ชาติไทย
คู่สมัย คู่ใจ ไทยนิรันดร์

สิ้นภาษา ดั่งสิ้น เอกราช
ดั่งสิ้นชาติ สิ้นชีพ สิ้นความฝัน
ดั่งประทีป ดับวูบ ในเร็ววัน
สิ้นแสงจันทร์ สิ้นดารา สิ้นราตรี

ภาษาไทย ภาษาเดียว ภาษาชาติ
ประวัติศาสตร์ จารึกไว้ เป็นสักขี
เป็นสมบัติ อนุชน มานานปี
มิอาจมี สิ่งใด มาทำลาย

แต่บัดนี้ วัฒนธรรม ตะวันตก
เข้ามาปก ความคิด ปิดจิตหมาย
ทั้งภาษา การกินอยู่ การแต่งกาย
เริ่มเสื่อมคลาย ความดีงาม ของผองไทย

ถึงเวลา อนุชน คนรุ่นหลัง
เริ่มปลูกฝัง จิตสำนึก ให้ตรึกไว้
มีกำพืด เกิดมา จากคนไทย
ภาษาใด ไม่เทียมเท่า ที่ไทยมี

ภาษาพูด ภาษาอ่าน ภาษาเขียน
ตั้งแต่เศียร จรดบาท เป็นวีถี
คำพูดจา อ่อนหวาน ที่เรามี
ดั่งวารี ไหลฉ่ำ ล่ำจิตใจ

ท่องกอไก่ ฮอนกฮูก ตั้งแต่เด็ก
เปรียบรั้วเหล็ก ป้องภาษา ชาติเอาไว้
ร่วมร้อยเรียง ร่วมรู้รัก ร่วมรักไทย
ใช่อะไร ภาษาไทย ของฉันเอง

วันพฤหัสบดีที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2556